cFos Personal Net พร้อมสคริปต์ Perl

มี 4 ขั้นตอนในการใช้สคริปต์ Perl กับ cFos PNet:

1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Perl จาก http://www.activestate.com/activeperl
2. แก้ไขไฟล์. .htaccess ในไดเรกทอรีที่สคริปต์ Perl ของคุณอยู่ หรือเพื่อเปิดใช้งานสคริปต์ Perl ทั่วโลกให้แก้ไขไฟล์. .htaccess ในไดเรกทอรีรากของเอกสารหรือใน c:\programdata\cfos\cfospnet\private เพิ่มคำสั่งต่อไปนี้:
   AddHandler cgi-script pl
3. ตรวจสอบสคริปต์ Perl ทั้งหมดสำหรับบรรทัดล่ามที่ถูกต้อง ในสคริปต์ CGI บรรทัดแรกของไฟล์สคริปต์จะบอกเว็บเซิร์ฟเวอร์ว่าจะหาล่ามสำหรับสคริปต์นั้นได้จากที่ใด ภายใต้ UNIX มัก perl อยู่ใน /usr/bin ดังนั้นในสคริปต์ Perl ทั้งหมดของคุณเปลี่ยนที่ตั้งของล่าม perl ของคุณ (หลังตัวอักษร " ! "):
   #! /usr/bin/perl
   ไปยัง
   #! c:\perl\perl.exe
   สมมติว่าไดเรกทอรีการติดตั้ง Perl ของคุณคือ c:\perl
4. กำหนดค่า sendmail cFos PNet มาพร้อมกับ sendmail.exe เล็กน้อยเพื่อให้อนุญาตการส่งจดหมายในรูปแบบ UNIX ใช้พารามิเตอร์ smtp ที่กำหนดค่าสำหรับ cFos PNet ใน GLOBAL.INI เพื่อส่งเมลผ่าน SMTP และยอมรับเมลเป็นข้อความธรรมดาจาก stdin ค้นหาสคริปต์ Perl ของคุณสำหรับการโทร sendmail และแทนที่ด้วยการโทรไปยัง sendmail.exe ของ cFos PNet
   ตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลง
   เปิด (MAIL, "|/usr/bin/sendmail -t -i -oi");
   ไปยัง
   เปิด (MAIL, "| c:\\โปรแกรมไฟล์\\cfos\\cfospnet\\sendmail.exe -t -i -oi");
   โดยที่ c:\program files\cfos\cfospnet เป็นไดเร็กทอรีการติดตั้ง cFos PNet ของคุณ

cFos Personal Net พร้อม PHP และ MySQL

นี่คือขั้นตอนในการใช้สคริปต์ PHP และ MySQL ด้วย cFos PNet:

1. ดาวน์โหลดไบนารีของเธรดที่ปลอดภัยเป็นไฟล์ ZIP จาก http://windows.php.net/download/ แตกไฟล์ในไดเรกทอรี PHP ที่คุณเลือกเช่น c:\php
2. ในไดเรกทอรี PHP ให้เปลี่ยนชื่อ php.ini-production เป็น php.ini และแก้ไข:
   1. ตั้งค่า sendmail cFos PNet มาพร้อมกับโปรแกรม sendmail.exe เพียงเล็กน้อยเพื่อให้อนุญาตการส่งจดหมายในรูปแบบ UNIX ลบความคิดเห็น " ; " ของ sendmail_path และเปลี่ยนบรรทัดนี้เป็น
      sendmail_path = c:\\โปรแกรมไฟล์\\cfos\\cfospnet\\sendmail.exe
      สมมติว่า c:\program files\cfos\cfospnet เป็นไดเรกทอรีการติดตั้ง cFos PNet
      คุณยังสามารถใช้ ฟีเจอร์ส่งจดหมายในตัวของ PHP แทน
   2. เพิ่ม " E " ลงใน variables_order เช่น variables_order = "EGPCS"
3. บอก cFos PNet ที่มีล่าม PHP อยู่โดยการเพิ่มคีย์ php_interpreter ในส่วน [param] ของ GLOBAL.INI ใน c:\programdata\cfos\cfosnet เช่น
   php_interpreter=c:\php\php-cgi.exe
   คุณต้องระบุ PHP เวอร์ชัน CGI ที่นี่
4. หากสคริปต์ PHP ของคุณใช้ตำแหน่งของไดเรกทอรีสาธารณะเช่น document_root คุณอาจต้องกำหนดค่า โดยค่าเริ่มต้นคือ c:\programdata\cfos\cfospnet\pub
5. ดาวน์โหลดและติดตั้ง MySQL (เช่น Community Edition ติดตั้งเป็น "เซิร์ฟเวอร์เท่านั้น") กำหนดค่าผู้ใช้เพิ่มเติม (อาจมีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ db)
6. ใน php.ini ภายใต้ uncomment ของ Windows Extensions
   ;extension=php_mysqli.dll
   และเปลี่ยนเป็น
   extension=ext/php_mysqli.dll

cFos Personal Net พร้อม WordPress

1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง MySQL และ PHP
2. กำหนดค่าฐานข้อมูล WordPress:
   1. ค้นหา mysql.exe บนคอมพิวเตอร์ของคุณและเปิดใช้งานด้วย
      > mysql.exe -u admin_username -p
      Enter admin_password
   2. จากนั้นออกคำสั่งต่อไปนี้:
      CREATE DATABASE pnet_wordpress_db;
      GRANT ALL PRIVILEGES ON pnet_wordpress_db.* TO " wordpress_username "@"localhost" IDENTIFIED BY " wordpress_password "; FLUSH PRIVILEGES; EXIT;
   3. คุณสามารถลบฐานข้อมูลนั้นด้วย mysql.exe และคำสั่ง DROP DATABASE pnet_wordpress_db;.
3. สร้างไดเรกทอรีย่อยใน pnet ของคุณ pub ต้นไม้และคัดลอก WordPress จากไฟล์ zip เป็นมัน
4. เริ่ม pnet และเรียกใช้สคริปต์ติดตั้ง WordPress ด้วยเบราว์เซอร์ของคุณ:
   http://localhost/ your_wordpress_subdirectory /wp-admin/install.php
   และการใช้ pnet_wordpress_db ของคุณ wordpress_username และ wordpress_password เพื่อระบุ WordPress ฐานข้อมูลควรใช้

เอกสาร cFos Personal Net

• ภาพรวม
• การติดตั้งเบื้องต้น
• เราเตอร์/ไฟร์วอลล์ การกำหนดค่า
• องค์ประกอบเพิ่มเติม
• WebDAV, CalDav และ CardDav
• เซิร์ฟเวอร์สื่อ UPnP
• ภาษาบทคำสั่งอ้างอิง
• เกร็ดความรู้เรื่องความปลอดภัย
• ภาษาบทคำสั่งพื้นฐาน
• สคริปต์ FastCGI
• การติดตั้งภาษาสคริปต์
• สิ่งใหม่อื่นๆ
• เค้าโครงอ้างอิง